วันพุธที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2552

สิ่งประดิษฐ์ที่แปลกที่สุด


รวมที่สุดในโลก (บางส่วน)หุ่นยนต์เสมือนมนุษย์ขนาดเล็กที่สุดในโลกนาม i-Sobot (ไอโซบ็อท) จากโทมี (Tomy) ผู้ผลิตของเล่นสัญชาติญี่ปุ่น ถูกนำมาแสดงความสามารถในการเต้นรำอีกครั้งที่โตเกียว หลังจากรับรางวัล"หุ่น ยนต์แห่งปี"จากรัฐบาลญี่ปุ่น คว้ารางวัลหุ่นยนต์ออกแบบยอดเยี่ยมในอุตสาหกรรมขนาดใ หญ่ไปครองไอโซบ็อทนั้นมีส่วนสูง 165 มม. น้ำหนัก 350 กรัม เป็นหุ่นยนต์เสมือนมนุษย์ขนาดเล็กที่สุดในโลกแต่สามา รถฝังเซ็นเซอร์และ เครื่องยนต์ขนาดจิ๋วไว้ถึง 17 จุด ความสามารถในการออกแบบโดยใช้เนื้อที่สุดประหยัดนี้ทำ ให้ไอโซบ็อทได้รับ รางวัลหุ่นยนต์แห่งปีหรือ Robot of the Year ในกลุ่มอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ (เพราะไอโซบ็อทเปิดสายการผลิตอย่างจริงจังเพื่อจำหน่ ายแล้ว) สาขาการออกแบบยอดเยี่ยมประจำปี 2008 ไปครองรางวัล หุ่นยนต์แห่งปีของญี่ปุ่นนี้มอบโดยกระทรวงเศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรม (Ministry of Economy, Trade and Industry) หรือ METI ของญี่ปุ่น โดย METI เริ่มก่อตั้งรางวัลนี้ในปี 2006 เพื่อประชาสัมพันธ์พัฒนาการแอปพลิเคชันหุ่นยนต์เหนือ ชั้นให้ชาวโลกรับรู้ โดยปีนี้ คณะกรรมการได้พิจารณาหุ่นยนต์ทั้งในสายก่อสร้าง สายอุตสาหกรรม สายบริการ และสายการศึกษากว่า 65 ตัวไอโซบ็อท นั้นได้รับการบันทึกโดยกินเนสบุ้กเวิร์ลเรคคอร์ดแล้ว ว่าเป็นหุ่นยนต์ที่เปิด สายการผลิตเต็มตัวที่มีขนาดเล็กที่สุด ใช้พลังงานแบตเตอรี่ AA จำนวน 4 ก้อนต่อการทำงานหนึ่ง 1 ชั่วโมง กลไกภายใน 17 จุดทำให้ไอโซบ็อทเคลื่อนไหวได้ราว 200 ท่า สามารถเดิน เต้นรำ ร้องเพลง พูดคุยได้ 180 ภาษา มีเสียงพิเศษอยู่ในตัว 90 เสียง ควบคุมการทำงานด้วยรีโมท สามารถจำแนกเสียงเพื่อโต้ตอบกับผู้ใช้ได้ระดับหนึ่ง สนนราคา 29,800 เยนหรือประมาณ 8,900 บาทใน ส่วนรางวัลหุ่นยนต์อุตสาหกรรมขนาดเล็กยอดเยี่ยม หุ่นยนต์ "book time" ผลงานพัฒนาของบริษัท Nishizawa Electric ได้รับไป เป็นหุ่นยนต์เปลี่ยนหน้าหนังสือสำหรับช่วยเหลือผู้พิ การ หุ่นยนต์จะมีปุ่มใหญ่สำหรับให้ผู้ใช้เหยียบเพื่อเปิด หน้าหนังสือด้วยตัวเอง เป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการลดงานของผู้ช่วยผู้พิการรางวัลที่น่าสนใจอื่นๆคือรางวัลพิเศษขวัญใจคณะกรรมกา ร เป็นของหุ่นยนต์ปลูกข้าวซึ่งพัฒนาโดยศูนย์วิจัยการเก ษตรแห่งชาติญี่ปุ่น ในเครือสถาบันวิจัยเทคโนโลยีอุตสาหกรรมเพื่อสำนักงาน อาหารและการเกษตร มีการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี GPS ในการกำหนดตำแหน่งเพาะปลูกอย่างชาญฉลาด มีการพัฒนาอุปกรณ์สำหรับตรวจวัดลำต้นข้าว โดยหุ่นยนต์นี้สามารถปลูกข้าวได้ 3,000 ตารางเมตรในเวลาเพียง 50 นาทีนอกจากนี้ ยังมีรางวัลหุ่นยนต์ยอดเยี่ยมในสาขาต่างๆ เช่น หุ่นยนต์ยอดเยี่ยมสาขาบริการ หุ่นยนต์ยอดเยี่ยมสาขาอุตสาหกรรม หุ่นยนต์ยอดเยี่ยมสาขาชุมชน และหุ่นยนต์ยอดเยี่ยมด้านชิ้นส่วนและซอฟต์แวร์ ซึ่งยังอยู่ในโครงการต้นแบบและต้องพัฒนาต่อเนื่องในอ นาคต



การปลูกกุหลาบ

การปลูกกุหลาบ





ตำนาน ดอกกุหลาบ• กุหลาบ เป็นดอกไม้ที่นิยมปลูกไว้ชื่นชมมาแต่โบราณ ประมาณกันว่า กุหลาบเกิดขึ้นเมื่อกว่า 70 ล้านปีมาแล้ว เคยมีการค้นพบฟอสซิลของกุหลาบใน รัฐโคโลราโด และ รัฐโอเรกอน ประเทศสหรัฐอเมริกา และได้พิสูจน์ว่ากุหลาบป่าเป็นพืชที่มีอายุถึง 40 ล้านปี แต่กุหลาบป่าสมัยโลกล้านปีนี้ มีรูปร่างหน้าตาไม่เหมือนกุหลาบสมัยนี้ • เนื่องจากมนุษย์ได้นำเอากุหลาบป่ามาปลูกและผสมพันธุ์ ขยายพันธุ์เป็นพันธุ์ต่างๆ มากมาย ความจริงแล้วกำเนิดของกุหลาบหรือกุหลาบป่านี้มีเฉพาะในแถบบริเวณเหนือเส้นศูนย์สูตรของโลกเท่านั้น คือกำเนิดในภาคกลางของทวีปเอเชีย • แล้วแพร่ขยายพันธุ์ไปตลอดซีกโลกเหนือ ไม่ว่าจะเป็นแถบที่มีอากาศหนาวจัดอย่าง อาร์กติก อลาสก้า ไซบีเรีย หรือแถบอากาศร้อนอย่าง อินเดีย แอฟริกาเหนือ แต่ในบริเวณแถบใต้เส้นศูนย์สูตรอย่างทวีปออสเตรเลีย หรือเกาะต่างๆ ในมหาสมุทรรวมทั้งแอฟริกาใต้ ไม่เคยมีปรากฏว่ามีกุหลาบป่าเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติเลย • ตามประวัติศาสตร์เล่าว่า กุหลาบป่าถูกนำมาปลูกไว้ในพระราชวังของจักรพรรด์จีน ในสมัยราชวงศ์ฮั่นราว 5,000 ปีมาแล้ว ขณะที่อียิปต์เองก็ปลูกกุหลาบเป็นไม้ดอก ส่งไปขายให้แก่ชาวโรมัน ชาวโรมันเป็นชาติที่รักดอกกุหลาบมากถึงจะสั่งซื้อจากประเทศอียิปต์แล้ว ยังลงทุนสร้างเนอร์สเซอรี่ขนาดใหญ่สำหรับปลูกดอกกุหลาบอีกด้วย

สำหรับชาวโรมันแล้วเรียกได้ว่าดอกกุหลาบมีความสำคัญกับชีวิตประจำวัน • เพราะชาวโรมันถือว่า ดอกกุหลาบเป็นสัญลักษณ์ของความรัก ซึ่งเป็นทั้งของขวัญ เป็นดอกไม้สำหรับทำเป็นมาลัยต้อนรับแขก เป็นดอกไม้สำหรับงานเฉลิมฉลองต่างๆ ใช้เป็นส่วนประกอบสำหรับทำขนม ทำไวน์ ส่วนน้ำมันกุหลาบยังใช้ทำเป็นยาได้อีกด้วย • กุหลาบถือเป็นสัญลักษณ์แห่งความรักและความโรแมนติก ซึ่งมีบางตำนานเล่าว่า ดอกกุหลาบเป็นเสมือนเครื่องหมายแทนการกำเนิดของ เทพธิดาวีนัส • ซึ่งเป็นเทพแห่งความงาม และความรัก วีนัสเป็นที่รู้จักกันในชื่อ อโฟรไดท์ ในตำนานเทพของกรีกได้กล่าวไว้ว่า น้ำตาของเธอหยดลงปะปนกับเลือดของ อคอนิส คนรักของเธอที่ถูกหมูป่าฆ่า เลือดและน้ำตาหยดลงสู่พื้นแล้วกลายเป็นดอกไม้สีแดงเข้มหรือดอกกุหลาบนั่นเอง • แต่บางตำนานก็เล่าว่า ดอกกุหลาบเกิดจากเลือดของ อโฟรไดท์ เองที่หยดลงสู่พื้น เมื่อเธอแทงตัวเองด้วยหนามแหลม

บาง ตำนานกล่าวว่า• กุหลาบเกิดจากการชุมนุมของบรรดาทวยเทพ เพื่อประทานชีวิตใหม่ให้กับนางกินรีนางหนึ่ง ซึ่งเทพธิดาแห่งบุปผาชาติ หรือ คลอริส บังเอิญไปพบนางนอนสิ้นชีพอยู่ ในตำนานนี้กล่าวว่า อโฟรไดท์ เป็นเทพผู้ประทานความงามให้ มีเทพอีกสามองค์ประทานความสดใส เสน่ห์ และความน่าอภิรมย์ และมี เซไฟรัส • ซึ่งเป็นลมตะวันตกได้ช่วยพัดกลุ่มเมฆ เพื่อเปิดฟ้าให้กับแสงของเทพ อพอลโล หรือแสงอาทิตย์ส่องลงมาเพื่อประทานพรอมตะ • จากนั้น ไดโอนีเซียส เทพเจ้าแห่งเหล้าองุ่นก็ประทานน้ำอมฤต และกลิ่นหอม เมื่อสร้างบุปผาชาติดอกใหม่นี้ขึ้นมาได้แล้ว เทพทั้งหลายก็เรียกดอกไม้ซึ่งมีกลิ่นหอมและทรงเสน่ห์นี้ว่า Rosa • จากนั้น เทพธิดาคลอริส ก็รวบรวมหยดน้ำค้างมาประดับเป็นมงกุฎ เพื่อมอบให้ดอกไม้นี้เป็นราชินีแห่งบุปผาชาติทั้งมวล จากนั้นก็ประทานดอกกุหลาบให้กับเทพ อีโรส ซึ่งเป็นเทพแห่งความรัก

กุหลาบจึงกลายเป็นสัญลักษณ์ของความรัก • แล้วเทพ อีโรส ก็ประทานกุหลาบนี้ให้แก่ ฮาร์โพเครติส ซึ่งเป็นเทพแห่งความเงียบ เพื่อที่จะเก็บซ่อนความอ่อนแอของทวยเทพทั้งหลาย • ดอกกุหลาบจึงกลายเป็นสัญลักษณ์ ของความเงียบและความเร้นลับอีกอย่างหนึ่ง กุหลาบกลายเป็นของขวัญ ของกำนัลสำหรับการแสดงความรัก และมักจะมีผู้เปรียบเทียบความงามของผู้หญิงเป็นเสมือนดอกกุหลาบ • และผู้หญิงคนแรกในประวัติศาสตร์โลก ที่ได้รับสมญาว่าเป็นผู้หญิงงามเสมือนดอกกุหลาบคือ พระนางคลีโอพัตรา ซึ่งพระนางยังได้เคยต้อนรับ มาร์ค แอนโทนี คนรักของพระนาง ในห้องซึ่งโรยด้วยดอกกุหลาบหนาถึง 18 นิ้ว หอมฟุ้งไปด้วยกลิ่นกุหลาบ



แหล่งข้อมูล www.google.com


วันศุกร์ที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2552

ประวัติส่วนตัว

สวัสดีค่ะ ดิฉัน ด.ญ.ธาราธร นิ่มกำเหนิด








เรียนอยู่ชั้นประถมศึกษา 6/2








เรียนอยู่โรงเรียน วัดกำแพง








อายุ 11 เกิดวันอังคารที่14กรกฎาคม พ.ศ.2541








มีเพื่อนสนิท 2 คน





ด.ญ.จิราวรรณ คำนึง



กับ



ด.ญ.จุฑามาศ เถโร